ทุกอย่างเริ่มต้นจากตอนที่แพมได้รับทุนรัฐบาลญี่ปุ่น และต้องหามหาวิทยาลัย แน่นอนว่าอาจจะคล้ายๆกับหลายคน ที่ลังเลระหว่างโตเกียว กับเกียวโต ตอนนั้นเราได้รับจดหมายตอบรับจากมหาวิทยาลัย Ryukoku และ มหาวิทยาลัย Kyoto University of the Arts, ตอนนั้นอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออก คุณเจ้าหน้าที่สถานทูตกรุณาช่วยแปลให้ รู้สึกได้ถึงความยินดีต้อนรับจากทั้งสองมหาวิทยาลัย เลยคิดว่า ต้องไปเกียวโตแน่ๆ

ตอนนี้กำลังเรียนดีไซน์ ปริญญาเอกอยู่ค่ะ ไม่จบซักที แต่แม่ก็แซวว่า ไม่เป็นไรไม่ต้องรีบ อยู่เกียวโตก็ดีแล้ว 555 ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า ถึงจะต้องรีบเรียนให้จบ แต่เมืองเกียวโตก็น่าอยู่จริงๆ และมีส่วนช่วยฮีลใจเป็นอย่างมาก ก่อนหน้าเรียนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ภาควิชาออกแบบอุตสหกรรม ทำงานเกือบสิบปี พึ่งมีโอกาสได้ต่อปริญญาโท และเอกที่มหาวิทยาลัยในเกียวโตค่ะ

ก่อนหน้าเคยมาที่นี่หลายครั้งในฐานะนักท่องเที่ยว รู้สึกว่าเป็นเมืองที่สวยงาม มีเสน่ห์ และมีประวัติศาสตร์ยาวนาน

เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แบบ ชอบมากขึ้นๆเรื่อยๆ สามปีแรกเหมือนชีวิตในฝันมาก แล้วก็พึ่งเจอ คัลเจอร์ชอคครั้งใหญ่ ตอนปีที่สามที่จะย้ายมหาวิทยาลัย ถึงมุมมองต่อบางสิ่งจะเปลี่ยนไป แต่ยังไงก็ดีมุมมองที่ดีต่อเมืองเกียวโต ก็ไม่เคยเปลี่ยนในฐานะ เมืองที่น่าอยู่และมีเสน่ห์มาก แต่เต็มไปด้วยความทรงจำของเรา

อย่างแรกเลย กำแพงภาษา เพราะสาย art และออกแบบ ที่นี่แทบไม่มีหลักสูตรภาษาอังกฤษ ก็เลยต้องเริ่มจากศูนย์ ให้เข้ามหาวิทยาลัยได้ภายในสองปี แต่เป็นสิ่งที่เราคิดว่าท้าทายดี ถึงตอนนี้จะยังรู้สึกว่า ภาษาญี่ปุ่นเราไม่เก่งเลยซะทีก็เถอะ แต่ก็พยายามไปเรื่อยๆละกัน

ญี่ปุ่นเป็นที่หมายในใจของใครหลายๆคนด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง เราเองก็เหมือนกัน ที่ชอบเกียวโตก็เพราะว่า

1.เป็นเมืองที่สวยงาม และให้ความรู้สึกถึงความเก่าๆ โหยหาอดีต

2.มีมหาวิทยาลัยเลยอะมาก แทบจะมีทุกคอร์สให้เลือกสรร

3.มีหน่วยงานที่คอยซัพพอร์ตชาวต่างชาติเยอะมาก และดีมาก เช่น kokoka และ Study Kyoto

4.มีกิจกรรมเรียนรู้วัฒนธรรมสนุกๆ เยอะมาก และหลายๆอันฟรี สำหรับนักเรียนต่างชาติ

5.ถึงจะมีเพื่อนไม่มาก และหาเพื่อนยากมากๆ แต่เราก็ดีใจที่ได้มีเพื่อนคนญี่ปุ่น (ส่วนใหญ่คือนักเรียนที่มาเรียนภาษาไทยกับเรา) ไต้หวัน และจีน ที่เป็นคนน่ารักมากๆที่นี่

6.การเดินทางสะดวกมากๆ ไม่ว่าจะจักรยานหรือรถเมล์

7.ปลอดภัย แม้เดินทางในตอนกลางคืน (แต่ไม่ว่าจะที่ไหนบนโลก ถึงจะชื่อว่าปลอดภัยแต่ก็ควรมีสติและระวังตัวนะ)

สำหรับเราแล้ว ก้าวแรกนี่แหละยากสุด จะเริ่มยังไง เริ่มที่ไหน ข้อมูลตอนนี้มันเยอะไปหมด ทำให้มึนงง และมองไม่เห็นทาง โชคดีที่เมืองไทย มีงานศึกษาต่อเยอะมาก และยังมีเว็บไซต์แบบ Study Kyoto ที่มีภาษาไทย ที่ให้ข้อมูลเริ่มต้นจากศูนย์ ไปจนถึงเข้ามหาวิทยาลัย ใช้ชีวิต หางาน และกลับบ้าน ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นมาก

ไม่มีอะไรมากที่สุดเป็นพิเศษสำหรับเรา ทุกอย่างในเกียวโตดีหมด และประกอบขึ้นเป็นประสบการณ์การเรียนต่อ และใช้ชีวิตที่ดีที่สุด

ประสบการณ์คือข้อมูลส่วนบุคคลที่มีค่ามากๆ เพราะมันจะช่วยหาหนทางให้คนอื่นได้ ไม่ใช่เป็นการบอกว่าคุณต้องทำตามเราแบบนี้ๆ แต่เป็นการบอกเขาว่า มันมีวิธีแบบนี้อยู่นะ แต่ละก็จะได้สามารถนำข้อมูลไปปรับใช้ให้เหมาะกับหนทางที่ตัวเองต้องการได้

อยากสอนภาษาไทยให้ชาวญี่ปุ่น เพราะเป็นงานที่ชอบ ทำแล้วสนุก ภาษามาพร้อมกับวัฒนธรรม เป็นอีกสื่อกลางที่ทำให้คนแต่ละชาติเข้าใจกัน

น้องสามารถหาข้อมูลที่มีประโยชน์ในการเรียนต่อและใช้ชีวิตได้ที่เว็บไซต์และเฟสบุคของ Study Kyoto นะคะ