1. มหาวิทยาลัยเกียวโต: คณะสารสนเทศ

เว็บไซต์ทางการของคณะ: https://www.i.kyoto-u.ac.jp/en/

จุดเด่น:

(1) มี 7 หลักสูตร ดังนี้

・หลักสูตรสารสนเทศปัญญาประดิษฐ์ ※มีหลักสูตรนานาชาติที่สอนโดยภาษาอังกฤษ

・หลักสูตรสารสนเทศและสังคม ※มีหลักสูตรนานาชาติที่สอนโดยภาษาอังกฤษ

・หลักสูตรคณิตศาสตร์ชั้นสูง

・หลักสูตรวิศวกรรมคณิตศาสตร์

・หลักสูตรวิทยาศาสตร์ระบบ

・หลักสูตรวิทยาการระบบสื่อสาร ※มีหลักสูตรนานาชาติที่สอนโดยภาษาอังกฤษ

・หลักสูตรวิทยาการข้อมูล

※ สำหรับข้อมูลรายละเอียดหลักสูตรนานาชาติ สามารถเข้าไปดูได้ที่นี่ครับ

(2) เป็นคณะสารสนเทศที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น โดยมีคณาจารย์กว่า 100 คน

 

2. มหาวิทยาลัยเกียวโตโคเงเซ็นอิ (KIT): ภาควิชาวิศวกรรมศาสตร์สารเทศ

เว็บไซต์ทางการของคณะ: https://www.kit.ac.jp/en/academic-programs/masters-program/information-science/

จุดเด่น:

(1) มีการจัดการเรียนการสอนในชั้นเรียนในเทอมที่ 1 และเทอมที่ 3 เพื่อให้นักศึกษาสามารถฝึกงานหรือไปแลกเปลี่ยนระยะสั้นได้ในเทอมที่ 2 และเทอมที่ 4

(2) หลักสูตรการออกแบบปฏิสัมพันธ์ที่จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2015 นักศึกษาจะมีโอกาสได้เรียนร่วมกับนักศึกษาจากต่างสาขา เช่น นักศึกษาสาขาการออกแบบ เพื่อร่วมกันเรียนรู้เกี่ยวกับการพัฒนาไอเดีย การคำนวณทางกายภาพ และการผลิตดิจิทัล เป็นต้น

 

3. มหาวิทยาลัยริตซึเมคัง: คณะวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์สารสนเทศ

เว็บไซต์ทางการของคณะ: https://en.ritsumei.ac.jp/gsise/

จุดเด่น:

(1) ในระดับปริญญาโทมี 2 หลักสูตร ดังนี้

・หลักสูตรวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์

・หลักสูตรวิทยาศาสตร์ข้อมูลมนุษย์

(2) มีอุปกรณ์และเครื่องมือที่ทันสมัย พร้อมทั้งมีทุนสนับสนุนการวิจัย

(3) มีนักศึกษานานาชาติมากกว่า 100 คน มีวิชาที่สอนด้วยภาษาอังกฤษ นักศึกษาญี่ปุ่นก็สามารถฝึกภาษาอังกฤษในการสื่อสารได้เช่นกัน

(4) มีโปรแกรมฝึกทักษะในต่างประเทศ เช่น โปรแกรมฝึกอบรมด้านไอทีในต่างประเทศ และโปรแกรมฝึกงานในต่างประเทศ ซึ่งนักศึกษาจะได้หน่วยกิตด้วย

 

4. มหาวิทยาลัยเกียวโตทะจิบานะ: คณะวิทยาการสารสนเทศ

เว็บไซต์ทางการของคณะ: https://www.tachibana-u.ac.jp/english/graduate/index.html

จุดเด่น:

(1) เริ่มเปิดการเรียนการสอนในระดับปริญญาโทเมื่อเดือนเมษายน 2024

(2) มีทั้งการเรียนการสอนในห้องเรียน และมีการนำการเรียนออนไลน์มาใช้สำหรับวิชาเกี่ยวกับสื่อต่าง ๆ ทำให้นักศึกษาสามารถเรียนได้ตามสถานที่และเวลาที่สะดวก

(3) มีการอบรมก่อนเข้าเรียนสำหรับนักศึกษาใหม่ที่ไม่ได้มีพื้นฐานในระดับมหาวิทยาลัยจากคณะหรือภาควิชาด้านสารสนเทศ

 

5. มหาวิทยาลัยบัณฑิตศึกษาสารสนเทศเกียวโต

เว็บไซต์ทางการของคณะ: https://www.kcg.edu/

จุดเด่น:

(1) นอกจาก 8 กลุ่มสาขาวิชาด้านล่างนี้ นักศึกษายังสามารถเลือกเรียนวิชาเฉพาะทางด้านอุตสาหกรรมและอาชีพต่าง ๆ ควบคู่ไปด้วย เช่น การเงิน การเกษตร การประมงทางทะเล การแพทย์และสุขภาพ เป็นต้น

・ปัญญาประดิษฐ์

・วิทยาศาสตร์ข้อมูล

・การพัฒนาระบบเว็บ

・การจัดการเน็ตเวิร์ค

・ผู้ประกอบการระดับโลก

・ERP

・ไอทีสำหรับมังงะและอนิเมะ

・ไอทีสำหรับการท่องเที่ยว

(2) เป็นบัณฑิตวิทยาลัยเฉพาะทางด้านไอทีที่เน้นหลักสูตรปฏิบัติจริงเพื่อพัฒนาทักษะการปฏิบัติของนักศึกษา

(3) มีนักศึกษานานาชาติจำนวนมาก และมีการสนับสนุนในด้านการใช้ชีวิตและการหางานอย่างเต็มที่

 

6. มหาวิทยาลัยโดชิชา: คณะวัฒนธรรมสารสนเทศ

เว็บไซต์ทางการของคณะ: https://www.cis.doshisha.ac.jp/english/graduateschool/information/

จุดเด่น:

(1) มี 4 หลักสูตร ดังนี้

・หลักสูตรวิทยาการทรัพยากรทางวัฒนธรรม

・หลักสูตรวิทยาการข้อมูลภาษา

・หลักสูตรวิทยาการข้อมูลพฤติกรรม

・หลักสูตรพื้นฐานวิทยาการข้อมูล

(2) เน้นการทำความเข้าใจวัฒนธรรมและสังคมด้วยการวิเคราะห์วิจัยโดยอาศัยทฤษฎีและข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เป็นพื้นฐาน

1. สถาบันการศึกษาคอมพิวเตอร์เกียวโต

เว็บไซต์ทางการของสถาบัน: https://www.kcg.ac.jp/departments/cs/

จุดเด่น:

(1) สามารถเลือกเรียนวิทยาการสารสนเทศได้จาก 5 กลุ่มสาขาวิชา ได้แก่

・กลุ่มวิชาศิลปะและการออกแบบ

・กลุ่มวิชาธุรกิจ

・กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์

・กลุ่มวิชาเกมดิจิทัล

・กลุ่มวิชาวิศวกรรมศาสตร์

※ มีหลักสูตรสำหรับนักศึกษานานาชาติ

(2) เป็นสถาบันการศึกษาด้านคอมพิวเตอร์แห่งแรกในญี่ปุ่น ที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1963 โดยมีนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาและทำงานในวงการไอทีกว่า 50,000 คน

(3) นอกจากการเรียนการสอนในห้องเรียนแล้ว นักศึกษายังมีโอกาสเข้าร่วมการสัมมนาและการประกวดแข่งขันตามสาขาวิชาต่าง ๆ เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับวิทยาการใหม่ ๆ ผ่านการสร้างสรรค์ผลงาน

 

ทั้งหมดนี้เป็นสถาบันการศึกษาในเกียวโตที่เพื่อน ๆ สามารถศึกษาด้านไอทีได้ครับ แม้จะเรียกรวม ๆ ว่าสาขาไอที แต่มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งก็มีความเฉพาะและมีจุดแข็งแตกต่างกันไป ดังนั้น หากเพื่อน ๆ สนใจศึกษาต่อทางด้านไอทีแล้วละก็ ต้องศึกษาเปรียบเทียบข้อมูลให้ดี เพื่อจะได้เลือกสถานศึกษาที่เหมาะกับความต้องการของเพื่อน ๆ นะครับ