สี่ฤดูในชีวิตประจำวันของนักศึกษานานาชาติที่เกียวโต
2023.10.16
ฤดูใบไม้ร่วง
・Kyoto Intercollegiate Festa
Kyoto Intercollegiate Festa เป็นกิจกรรมใหญ่ที่จัดขึ้นช่วงต้นเดือนตุลาคมของทุกปี บริเวณหน้าศาลเจ้าเฮอัน เริ่มจัดขึ้นเมื่อปี 2003 มีผู้เข้าร่วมงานกว่าหนึ่งแสนคน โดยผู้จัดงานคือกลุ่มนักศึกษาเองนะครับ ในงานมีกิจกรรมน่าสนใจมากมาย อาทิ ดนตรี เต้น อาหาร แฟชั่นโชว์ ซึ่งทำให้เกียวโตครึกครื้นขึ้นมาก ๆ ด้วยพลังของนักศึกษา
สำหรับนักศึกษานานาชาติก็สามารถร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ได้นะครับ และสำหรับคนที่สนใจอยากร่วมทีมจัดงานด้วยก็สามารถทำได้เช่นกันนะครับ
เกี่ยวกับงานเทศกาลของนักศึกษาในเกียวโต
・เว็บไซต์ทางการของ Kyoto Intercollegiate Festa
・บทความของ Study Kyoto “กิจกรรมของนักศึกษาในเกียวโต: ทำให้เกียวโตครึกคักโดยงานเทศกาลของนักศึกษา Kyoto Intercollegiate Festa”
・หนึ่งในสามเทศกาลใหญ่ของเกียวโต: จิได มัตสึริ
เทศกาลจิได มัตสึริเริ่มจัดขึ้นในปี 1895 ซึ่งเป็นปีที่ย้ายเมืองหลวงมายังเมืองเฮอันและก่อตั้งศาลเจ้าเฮอันครบรอบ 1100 ปี โดยในวันที่ 22 ตุลาคมในทุก ๆ ปี จะมีขบวนพาเหรดจากพระราชวังเกียวโตไปยังศาลเจ้าเฮอัน ผู้คนในขบวนกว่า 2000 คน จะแต่งกายด้วยชุดโบราณในสมัยต่าง ๆ นับย้อนตั้งแต่สมัยเมจิ (ปี 1868) ขึ้นไปจนถึงสมัยเฮอัน (ปี 794-1185) ขบวนพาเหรดภายในเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ได้รวบรวมเอาประวัติศาสตร์กว่าพันปีเอาไว้ให้ได้ผู้ชมสัมผัสในที่เดียว ถึงเพื่อน ๆ อาจจะไม่ได้มีความสนใจประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นมาก่อน แต่ก็รับรองว่าคุ้มค่าที่ได้ชมแน่นอนครับ
・ชมใบไม้แดง
พอย่างเข้ากลางเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงต้นเดือนธันวาคม ต้นไม้ใบหญ้าในก็จะเริ่มเปลี่ยนสี เมืองเกียวโตก็จะเปลี่ยนเข้าสู่บรรยากาศฤดูใบไม้ร่วงที่มีสีสันหลากหลาย เราสามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศใบไม้ร่วงได้ตามสถานที่ดูใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียงอย่างเช่น เอคันโด และวัดโทฟุคุจิ นอกจากนั้น นักศึกษาในเกียวโตยังสามารถเดินเล่นตามสถานที่ในชีวิตประจำวันอย่างมหาวิทยาลัยและสวนสาธารณใกล้ ๆ เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศเมืองเก่าที่งดงาม ที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีแดง ส้ม เหลือง เขียว ค่อย ๆ ชื่นชมทิวทัศน์ที่งดงามแบบเงียบสงบได้อีกด้วยนะครับ
ฤดูหนาว
・ระฆังคืนสิ้นปี
ที่ญี่ปุ่นเรียกวันที่ 31 ธันวาคมว่า “โอมิโซกะ” ครับ ตั้งแต่อดีตในวันโอมิโซกะชาวญี่ปุ่นจะเตรียมต้อนรับปีใหม่ด้วยการทำความสะอาดใหญ่และเตรียมอาหารพิเศษสำหรับช่วงปีใหม่ ในคืนวันสิ้นปีก่อนที่จะก้าวเข้าสู่ปีใหม่เล็กน้อย จะมี “การตีระฆังข้ามปี” ที่วัดจำนวน 108 ครั้ง เพื่อปัดเป่าความทุกข์ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งขอพรเริ่มต้นปีใหม่ด้วยนะครับ
วัดจิองอินในเกียวโตเป็นวัดที่มีชื่อเสียงมากในญี่ปุ่นเรื่องการตีระฆังข้ามปีนะครับ ที่วัดนี้จะมีพระสงฆ์ 17 รูปที่ประสานจังหวะการตีระฆังด้วยกัน มีหลายวัดที่สามารถเข้าไปขอพรและตีระฆังได้ด้วยนะครับ โดยบางวัดอาจต้องลงทะเบียนล่วงหน้าเอาไว้ก่อน หากมีโอกาสได้อยู่ญี่ปุ่นในช่วงเวลานี้แล้วล่ะก็ ลองไปฟังเสียงระฆัง เคาท์ดาวน์ข้ามปีแบบญี่ปุ่นกันดูนะครับ
・การสักการะศาลเจ้าครั้งแรกของปี
การไปสักการะศาลเจ้าครั้งแรกเมื่อย่างเข้าปีใหม่ที่ญี่ปุ่นเรียกว่า “ฮัทสึโมเดะ” ครับ เป็นการขอพรเพื่อให้ปีใหม่ที่เริ่มขึ้นเป็นอีกหนึ่งปีที่ดี
ที่เกียวโตมีศาลเจ้าเยอะมากนะครับ หากเพื่อน ๆ จะไปขอพรปีใหม่ฮัทสึโมเดะแล้วละก็ ลองเลือกดูศาลเจ้าที่เหมาะกับคำอธิฐานของเราดูนะครับ เช่น หากต้องการขอพรเรื่องการเรียนและการสอบก็ต้องไปที่ศาลเจ้าคิตะโนะเทนมังกุ หากต้องการขอพรเรื่องสุขภาพและปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายก็ต้องเป็นศาลเจ้ายะสะกะ และหากต้องการขอพระเรื่องความรักความสัมพันธ์ก็ต้องไปที่ศาลเจ้าจิชูเลยนะครับ เพื่อน ๆ ลองเริ่มต้นปีด้วยการสักการะขอพรที่ศาลเจ้า เสี่ยงเซียมซี และเขียนคำอธิฐานบนแผ่นป้ายเอมะกันดูนะครับ
・ทัศนียภาพที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะ
หน้าหนาวในเกียวโตค่อนข้างหนาวครับ แต่ไม่ค่อยมีหิมะสักเท่าไหร่ หากได้เห็นหิมะที่ทับถมในเกียวโต หรือที่เรียกในภาษาญี่ปุ่นว่า “ยุกิเกะโช โนะ เกียวโต” รับรองได้ว่าเพื่อน ๆ จะต้องประทับใจแน่นอน ภูมิทัศน์ที่มีชื่อเสียงและถ่ายรูปได้งดงามอย่างวัดคินคะคุจิ (วัดทอง) และศาลเจ้าคิบุเนะ แม้ว่าจะมีหิมะทับถมแต่ส่วนมากก็มักจะละลายหมดตั้งแต่ช่วงเช้า ดังนั้นหากอยากเห็นทัศนียภาพที่สุดประทับใจแล้วล่ะก็แนะนำให้ไปกันแต่เช้าตรู่ และอย่าลืมสวมเสื้อผ้าอุ่น ๆ กันด้วยนะครับ
ฤดูใบไม้ผลิที่เวียนมาอีกครั้ง
・ฤดูกาลของดอกบ๊วย
ระหว่างช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนมีนาคม เราจะสามารถชมความงดงามของดอกบ๊วยในเกียวโตได้ครับ ต้นบ๊วยที่ข้ามผ่านความเหน็บหนาวในฤดูหนาวและเริ่มออกดอกในช่วงนี้ เป็นสัญญาณบอกพวกเราว่า “ฤดูใบไม้ผลิกำลังจะมาถึงแล้ว” สถานที่ชมดอกบ๊วยที่มีชื่อเสียงที่สุดในเกียวโตคือที่ศาลเจ้าคิตะโนะเทนมังกุ ที่นี่มีดอกบ๊วยมากกว่า 50 ชนิด จำนวนมากกว่า 1500 ต้น ออกดอกบานสะพรั่งให้เราได้ชมกันอย่างเต็มอิ่ม อีกที่หนึ่งคือศาลเจ้าโจนางุซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องต้นบ๊วย “ชิดาเระ อุเมะ” ที่ให้ภาพทิวทัศน์งดงามของดอกบ๊วยสีชมพูบานสะพรั่งตามกิ่งบ๊วยที่โน้มลู่ลงต่ำ ๆ อย่างสวยงาม ช่วงเวลานี้อากาศยังหนาว เวลาออกไปดูดอกบ๊วยก็แต่งตัวอุ่น ๆ ด้วยนะครับ
แม้จะเป็นช่วงฤดูหนาวแต่พอย่างเข้าปลายเดือนกุมภาพันธ์ ก็จะมีวันที่มีแสงแดดอุ่น ๆ เริ่มเห็นต้นไม้ออกดอกตูม ๆ ทำให้รู้สึกได้ว่ากำลังจะเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิแล้ว พอฤดูกาลเปลี่ยนภาพทิวทัศน์ที่เห็นเป็นประจำในทุก ๆ วันก็จะดูแตกต่างกันออกไปทีละน้อย และเมื่อเราเริ่มรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลจากสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ เกียวโตก็กลายเป็นบ้านของเรานะครับ
การมาเรียนที่เกียวโตนั้น นอกจากเรื่องเรียนแล้ว หากได้สัมผัสประสบการณ์ที่มีเฉพาะในเกียวโตก็จะทำให้การใช้ชีวิตการเรียนต่างประเทศของเพื่อน ๆ คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น ลองอ่านข้อมูลเกี่ยวกับฤดูกาลในเกียวโตในบทความนี้ และค้นหาความสนุกในเกียวโดตามแบบของตัวเองกันดูนะครับ