สี่ฤดูในชีวิตประจำวันของนักศึกษานานาชาติที่เกียวโต
2023.10.16
เกียวโตเป็นเมืองที่มีวัฒนธรรมและภูมิทัศน์โบราณหลงเหลืออยู่มาก เรียกได้ว่าเป็นเมืองที่สวยงาม “แบบญี่ปุ่นแท้ ๆ” มีนักศึกษานานาชาติที่ได้สัมผัสถึงเสน่ห์ดังกล่าวและเดินทางมาเรียนที่เกียวโตทุก ๆ ปีเลยนะครับ เกียวโตในสี่ฤดูก็มีเสน่ห์แตกต่างกัน การได้ใช้ชีวิตประจำวันในเมืองเกียวโตจึงเป็นประสบการณ์ล้ำค่าที่หากมาเที่ยวเฉย ๆ ก็จะไม่ได้สัมผัส
ในบทความนี้ Study Kyoto ได้หยิบเอาภูมทัศน์และงานประเพณีในแต่ละฤดูมาแนะนำกัน หากใครสนใจอยากรู้จักเสน่ห์ที่แท้จริงของเกียวโต ก็ขอเชิญชวนให้มาสัมผัสได้ด้วยตัวเองเลยนะครับ
ฤดูใบไม้ผลิ
・ชมดอกซากุระ
หากพูดถึงฤดูใบไม้ผลิที่ญี่ปุ่น ก็ต้องนึกถึงซากุระจริงมั้ยครับ ซากุระที่เกียวโตจะเริ่มบานประมาณช่วงปลายเดือนมีนาคม จนกระทั่งบานเต็มที่ในช่วงต้นเดือนเมษายน ในเมืองเกียวโตมีสถานที่ดูซากุระที่มีชื่อเสียงอย่าง “เส้นทางนักปราชญ์ (Philosopher’s Path)” และ “ทางลากเรือขนส่ง (Keage Incline)” แต่จริง ๆ แล้ว ในเกียวโตยังมีตรอกเงียบ ๆ หลายที่ที่ห่างออกไปจากย่านนักท่องเที่ยว แต่พอเดินเข้าไปก็จะเจอกับต้นซากุระอยู่ตรงหน้า การได้ชื่นชมซากุระที่บานสะพรั่งอยู่อย่างเงียบ ๆ ในสวนสาธารณะเล็ก ๆ ใกล้บ้าน วัด และโรงเรียน สถานที่ในชีวิตประจำวันที่ไม่ได้เป็นที่ท่องเที่ยวนั้น เป็นช่วงเวลาที่แสนพิเศษที่จะได้สัมผัสเมื่ออาศัยอยู่ในเกียวโต
นอกจากนี้ ริมสองฝากฝั่งแม่น้ำคาโมะที่ชาวเกียวโตรักมาก ๆ ก็มีต้นซากุระเรียงรายเป็นทิวแถวยาวเหยียด เป็นที่นิยมสำหรับการชมดอกซากุระและการปิคนิค ฤดูซากุระปีหน้าลองชวนเพื่อน ๆ หิ้วกล่องข้าวเบนโตไปชมซากุระที่แม่น้ำคาโมะกันนะครับ
・หนึ่งในสามเทศกาลใหญ่ของเกียวโต: อาโออิ มัตสึริ
“คาโมะ โนะ มัตสึริ” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “อาโออิ มัตสึริ” เป็นหนึ่งในสามเทศกาลใหญ่ของเกียวโตที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกเดือนพฤษภาคม เทศกาลนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1500 ปี เป็นประเพณีโบราณเพื่อขอพรให้มีผลผลิตการเกษตรอุดมสมบูรณ์ โดยช่วงที่น่าดูที่สุดของเทศกาลนี้ก็คือพิธี “โระโทโนะกิ” ในวันที่ 15 พฤษภาคม ซึ่งจะมีคนแต่งตัวในชุดสมัยเฮอันเดินขบวนจากพระราชวังเกียวโตไปยังศาลเจ้าชิโมะกาโมะ เป็นระยะทางกว่า 8 กม. และหากทุกคนลองสังเกตดูดี ๆ ก็จะเห็นว่าตามชุดของคน วัว และม้าในขบวน จะมีใบอาโออิประดับอยู่ด้วย เป็นที่มาของชื่อเทศกาล “อาโออิ มัตสึริ” นะครับ
ฤดูร้อน
・ระเบียงโนเรียวยูกะ
พอย่างเข้าเดือนกรกฎาคม เราก็จะได้เห็นระเบียงโนเรียวยูกะตลอดริมฝั่งแม่น้ำคาโมะตั้งแต่ช่วงถนนนิโจถึงโกะโจ โนเรียวยูกะเป็นระเบียงที่ร้านอาหารริมแม่น้ำคาโมะกว่า 100 เจ้าทำยื่นออกมาจากตัวร้านเพื่อความเย็นสบายในหน้าร้อน สามารถชมแม่น้ำคาโมะไปพลาง ในระหว่างรับประทานอาหารหรือจิบชาเพลิน ๆ โดยปกติแล้วร้านจะเริ่มทำระเบียงตั้งแต่เดือนพฤษภาคมไปจนถึงเดือนกันยายนนะครับ ระหว่างช่วงเวลาดังกล่าวเพื่อน ๆ ลองไปนั่งระเบียงโนเรียวยูกะ สัมผัสหน้าร้อนสไตล์เกียวโตกันดูนะครับ
・ฤดูกาลของไฮเดรนเยีย
พอเข้าสู่กลางเดือนไปจนถึงปลายเดือนมิถุนายน จะเป็นช่วงที่ดอกไฮเดนเยียในเกียวโตบานสะพรั่ง การเที่ยวชมวัดและศาลเจ้าในเกียวโต เช่น วัดมิมุโรโตะที่มีชื่อเสียงว่าเป็นวัดไฮเดรนเยีย เป็นความเพลิดเพลินที่มีเฉพาะในช่วงนี้เท่านั้น การเดินท่ามกลางดอกไฮเดรนเยียหลากสี นานาพันธุ์ก็เพลิดเพลินไม่น้อย และเรายังสามารถสนุกไปกับการตามหาช่อไฮเดรนเยียทรงหัวใจที่ว่ากันว่าจะเรียกความสุขเข้ามาให้กับคนที่เจออีกด้วย หลายคนอาจคิดว่าการไปดูดอกไม้ควรไปวันที่อากาศแจ่มใสใช่มั้ยครับ แต่ไฮเดรนเยียเป็นดอกไม้ที่บานช่วงหน้าฝน จึงมีภาพจำต่างจากดอกไม้อื่น ๆ ดอกไฮเดรนเยียที่เปียกน้ำฝนจะมีความฉุ่มฉ่ำเป็นประกาย เป็นอีกหนึ่งบรรยากาศที่น่าชมไม่น้อยเลยที่เดียวครับ
・หนึ่งในสามเทศกาลใหญ่ของเกียวโต: กิอง มัตสึริ
หากพูดถึงสัญลักษณ์ฤดูร้อนของเกียวโตแล้ว จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้เลยนอกจากเทศกาล “กิอง มัตสึริ” ในเดือนกรกฎาคมนะครับ เทศกาลนี้มีพิธีต่าง ๆ ที่ยิ่งใหญ่อลังการตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือน กิอง มัตสึริเริ่มต้นขึ้นเพื่อขับไล่โรคระบาด มีประวัติศาสตร์ยาวนานถึงกว่าหนึ่งพันปีเลยทีเดียว พอย่างเข้าเดือนกรกฎาคม ย่านซันโจและชิโจที่ถือเป็นใจกลางเมืองเกียวโต ก็จะมีการประดับประดาสำหรับเทศกาลกิอง มัตสึริ และมีเสียงฝึกซ้อมเครื่องดนตรีสำหรับงานเทศกาลให้ได้ยินทั่วไปในเมืองเลยนะครับ
ช่วงไคลแมกซ์ของเทศกาลกิอง มัตสึริคือขบวนพาเหรด “ยามะโบะโคะ จุนโค” สองครั้งในวันที่ 17 และ 24 กรกฎาคม ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้โดยยูเนสโก อีกทั้งยามะโบะโคะทั้ง 34 คันในขบวนพาเหรด ก็ประดับตกแต่งด้วยงานฝีมือและสิ่งทอโบราณจากทั้งในประเทศญี่ปุ่นและต่างประเทศ เรียกได้ว่าเป็น “พิพิธภัณฑ์เคลื่อนที่” เลยนะครับ
นอกจากนี้ ในช่วง “โยอิยามะ” ซึ่งตรงกับคืนก่อนขบวนพาเหรด เรายังสามารถเดินชมยามะโบะโคะที่ประดับไฟอย่างสวยงาม และอิ่มท้องไปกับร้านขายของแผงลอยขายอาหารหลากหลาย เป็นบรรยากาศงานเทศกาลญี่ปุ่นที่ครึกครื้นมาก อยากให้ทุกคนได้ลองมาสัมผัสเทศกาลกิอง มัตสึริ เพื่อสนุกกับหน้าร้อนในเกียวโตกันดูนะครับ
・พิธีจุดไฟ “โกะซัง โนะ โอคุริบิ”
ในช่วงกลางเดือนสิงหาคม (ประมาณ 13-16 สิงหาคม) เป็นช่วงเทศกาลโอบ้งของญี่ปุ่นครับ เป็นช่วงเวลาที่เชื่อกันว่าดวงวิญญาณของผู้ที่ล่วงลับไปแล้วและบรรพบุรุษจะเดินทางกลับมายังโลกมนุษย์ และใช้เวลากับครอบครัวเป็นเวลาสั้น ๆ และในคืนสุดท้ายของโอบ้งที่เกียวโต คือคืนวันที่ 16 สิงหาคมนั้น ก็จะมีการจัดพิธีจุดไฟ “โกะซัง โนะ โอคุริบิ” ซึ่งเป็นพิธีโบราณ เพื่อส่งดวงวิญญาณเหล่านั้นกลับสู่สรวงสวรรค์ โดยจะมีการจุดไฟบนภูเขารอบเกียวโต 5 แห่ง เป็นรูปตัวอักษรคันจิ 大 (ได) สองตัว 妙法 (เมียวโฮ) รูปเรือ และรูปเสาโทริอิขนาดใหญ่ และจะค่อย ๆ จุดเรียงไปตามลำดับครับ
สองทุ่มคืนวันที่ 16 สิงหาคม หากมองไปที่ภูเขาทางเหนือในเมืองเกียวโตแล้ว ก็จะได้เห็นบรรยากาศที่มีมนต์สะกดแบบในรูปนี้เลย ผมเชื่อว่าต้องเป็นความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือนได้อย่างแน่นอนเลยครับ