มองเกียวโตผ่านนิยาย:บทสัมภาษณ์คุณโมริมิ โทมิฮิโกะ
2022.10.12
เพื่อน ๆ รู้จักนักเขียนชื่อ “โมริมิ โทมิฮิโกะ” กันมั้ยครับ คุณโมริมิเป็นนักเขียนที่มีชื่อเสียงและมีความเกี่ยวข้องกับเกียวโตมานาน เขียนนิยายที่เกี่ยวกับเกียวโตมาแล้วหลายเรื่อง แต่นักศึกษานานาชาติหลายคนก็อาจจะไม่ค่อยคุ้นชินกับนิยายญี่ปุ่นมากนัก
ครั้งนี้ นักศึกษานานาชาติในเกียวโตมีโอกาสได้สัมภาษณ์คุณโมริมิ อีกทั้งยังได้เดินเล่นกับคุณโมริมิในวันหนึ่งกลางฤดูร้อนของเดือนกรกฎาคม ที่บริเวณแม่น้ำคาโมะและมหาวิทยาลัยเกียวโตซึ่งเป็นฉากในนิยายด้วยนะครับ และในบทความนี้ คุณหลี่ หวงเอิน (Lee Hung-en) หนึ่งในนักศึกษาที่ร่วมสัมภาษณ์คุณโมริมิกับเรา ได้แนะนำผลงานของคุณโมริมิ รวมถึงถ่ายทอดบรรยากาศการสัมภาษณ์ให้พวกเราอ่านกันครับ
คุณโมริมิกับเกียวโต
คุณโมริมิเป็นนักเขียนนิยายแฟนตาซีของญี่ปุ่น โดยผลงานส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับนักศึกษาและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่นักศึกษา ซึ่งผมคิดว่าเพราะผลงานส่วนใหญ่เป็นเรื่องราวของตัวเอกที่เป็นนักศึกษานะครับ
ผมได้รู้จักกับนิยายของคุณโมริมิครั้งแรกสมัยที่ยังเรียนภาษาญี่ปุ่นอยู่ที่โรงเรียนสอนภาษาในโตเกียว โดยเพื่อนของผมแนะนำให้อ่านครับ และหลังจากนั้นผมก็กลายมาเป็นแฟนของคุณโมริมิเลย อีกทั้งอิทธิพลจากผลงานของคุณโมริมิก็ยังเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจย้ายจากโตเกียว เพื่อมาเรียนต่อที่เกียวโตด้วยนะครับ
อันที่จริงคุณโมริมิเองก็เคยเป็นนักศึกษาอยู่ที่เกียวโตครับ จึงมีส่วนทำให้เรื่องราวต่าง ๆ มักมีเกียวโตเป็นฉากที่เกี่ยวกับชีวิตนักศึกษาและรั้วมหาวิทยาลัย แม้ว่าเนื้อหาจะเป็นแนวแฟนตาซี แต่ก็ทำให้ผู้อ่านรู้สึกใกล้ตัว นั่นอาจเป็นเพราะคุณโมริมิได้สอดแทรกประสบการณ์ชีวิตนักศึกษาของเขาเองเข้าไปด้วยก็เป็นได้นะครับ
ตอนนี้ผมเองก็เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยในเกียวโตเช่นกัน และพอได้เจอสถานที่หรือมุมเมืองต่าง ๆ ในนิยายของคุณโมริมิ ผมก็จะรู้สึกตื่นเต้นมากครับ และผมก็เคยไปตามหาสถานที่ที่เป็นฉากในนิยายด้วยนะครับ ผมเลยอยากให้คนที่มีความสนใจเกียวโตได้ลองอ่านดู และลองไปเยือนฉากเหล่านั้นด้วยตัวเองตอนที่มาเกียวโตดูเช่นเดียวกันกับผมครับ ส่วนคนที่เรียนอยู่ที่เกียวโตอยู่แล้ว ก็ยังไม่สายเกินไปเช่นกัน เริ่มอ่านตั้งแต่ตอนนี้ จะได้มี “ความรู้สึกร่วม” ถึงชีวิตนักศึกษาในเกียวโตไปด้วยกันนะครับ
ผลงานของคุณโมริมิที่ผมชื่นชอบ
ผลงานเด่น ๆ ของคุณโมริมิมีเยอะมากเลยนะครับ ซึ่งในจำนวนนั้น ผมจะขอแนะนำสองเรื่องที่ผมชื่นชอบ เรื่องแรกคือ “Yojōhan Shinwa Taikei” และเรื่องที่สองคือ “Yoru wa Mijikashi Aruke yo Otome” ซึ่งทั้งสองเรื่องมีจุดร่วมกันคือ เป็นเรื่องราวของชีวิตนักศึกษาในเกียวโต และพูดถึงชีวิตของนักศึกษาเป็นหลักครับ
ตัวเอกในเรื่อง “Yojōhan Shinwa Taikei” เป็นเด็กหนุ่มชั้นปีที่ 3ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเกียวโต โดยเรื่องราวเริ่มต้นขึ้นจากการที่ตัวเอกของเรื่องรู้สึกเสียใจกับชีวิตเขาในรั้วมหาวิทยาลัยที่ผ่านมา ทุกคนน่าจะเคยมีความคิดว่า “ถ้าตอนนั้นเลือกอันนั้นแล้วละก็…” เหมือนกันใช่มั้ยครับ หากเปลี่ยนแปลงอดีตได้ อนาคตจะเป็นยังไงกัน ซึ่งในผลของคุณโมริมิเรื่องนี้ได้เล่าเรื่องในลักษณะเดียวกันนี้ บนโลกคู่ขนาน 4 โลกครับ
ส่วนเรื่อง “Yoru wa Mijikashi Aruke yo Otome” นั้น เป็นเรื่องที่มีความบิดเบี้ยวผิดเพี้ยนห่างจากความเป็นจริง และค่อนข้างแตกต่างจากชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยของผม แต่นิยายเรื่องนี้ก็ทำให้ผมคิดว่า เรื่องบ้า ๆ เพี้ยน ๆ ที่ทำได้เฉพาะในวัยนักศึกษาเท่านั้น หรือการพยายามผลักดันตัวเองอย่างสุดความสามารถถึงแม้ว่าจะมีอิทธิพลกดดันจากคนรอบข้างนั้น ก็ไม่เลวเลยทีเดียว
“Yoru wa Mijikashi Aruke yo Otome” เป็นเรื่องราวของ “สาวผมดำ” กับ “รุ่นพี่” ที่เธอตกหลุมรัก มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยและความรัก ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ว่ายังไงก็แยกจากนักศึกษาไม่ได้เลยจริง ๆ นะครับ คุณโมริมิได้ถ่ายทอดเรื่องราวการสลับสับเปลี่ยนความสัมพันธ์ของตัวเอกทั้งสองคน ผ่านมุมมองอันเป็นเอกลักษณ์ของเขา โดยมี “พนโตะโจ” และ “ศาลเจ้าชิโมะกาโมะ” เป็นฉากครับ ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องราวแฟนตาซี แต่ก็รู้สึกว่ามีความเป็นไปได้ นั่นก็เพราะมีฉากเป็นเกียวโต เมื่องแม้แต่ “ขบวนร้อยอสูร” ก็ยังเป็นไปได้เลย จริงมั้ยครับ
สำหรับผม “Yoru wa Mijikashi Aruke yo Otome” เป็นเรื่องเกี่ยวกับความรักของนักศึกษา มีความเจ็บปวดของความรักแทบจะแบบเดียวกับที่ผมเองเคยผ่านมา โดยส่วนตัวแล้วผมอยากแนะนำเรื่องนี้ให้คนที่จะเริ่มอ่านนิยายของคุณโมริมินะครับ
ผลงานของคุณโมริมิถูกนำไปสร้างเป็นอนิเมะและภาพยนตร์หลายเรื่อง นอกจากสองเรื่องที่ผมได้แนะนำไปแล้วนั้น ยังมีเรื่องอื่น เช่น “Uchōten Kazoku” และ “Pengin Haiwei” เป็นต้น จึงอาจจะมีคนที่เคยดูอนิเมะเหล่านี้โดยที่ไม่รู้ว่ามาจากผลงานของคุณโมริมิก็เป็นไปได้นะครับ ดังนั้น สำหรับคนที่ไม่ถนัดอ่านหนังสือสักเท่าไหร่ ดูอนิเมะก็สามารถสนุกได้เช่นกันครับ ลองดูกันนะครับ