มหาวิทยาลัยริทสึเมคัง วิทยาเขตบิวาโกะ คุสะทสึ เป็นที่ตั้งของคณะเภสัชศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์การกีฬาและสุขภาพ และคณะอื่น ๆ รวม 7 คณะ  นักเรียนที่ได้เยี่ยมชมห้องวิจัยของคณะชีววิทยาศาสตร์ซึ่งมีอุปกรณ์และเครื่องมือครบครัน บอกกับเราด้วยความตื่นเต้นว่า “ที่นี่มีอุปกรณ์วิเคราะห์ประมวลผลที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนเต็มไปหมดเลยครับ”

ในห้องให้คำปรึกษารายบุคคลเกี่ยวกับการสอบเข้าศึกษาต่อของนักเรียนชาวต่างชาตินั้น มีนักศึกษาชาวจีนที่กำลังศึกษาอยู่ที่วิทยาเขตแห่งนี้เป็นผู้ให้คำปรึกษาด้วย  นักเรียนชาวจีนที่ร่วมกิจกรรมทัศนศึกษาในครั้งนี้จึงได้มีโอกาสพูดคุยสอบถามกับรุ่นพี่ด้วยภาษาจีนเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยและการสอบเข้าศึกษาต่อ

วันที่ 2  เข้าร่วมกิจกรรม Open Campus แห่งที่สอง ที่มหาวิทยาลัยริวโคคุ วิทยาเขตเซตะ

เราเริ่มกิจกรรมวันนี้ด้วยการรับฟังการบรรยายแนะนำมหาวิทยาลัยโดยนักศึกษาปัจจุบันของมหาวิทยาลัยริวโคคุ ซึ่งห้องบรรยายที่ใช้ในวันนี้เป็นห้องที่สวยมาก ชวนให้จินตนาการต่อไปว่า “ถ้าหากเราเข้าเรียนที่นี่ ก็จะได้เรียนในห้องเรียนสวย ๆ แบบนี้สินะ”

หลังจากนั้นเราได้ไปเยี่ยมชมห้องสมุดของมหาวิทยาลัยฯ ซึ่งมีหนังสือกว่า 4 แสน 5 หมื่นเล่ม แต่ละคนได้ลองเดินค้นหาหนังสือเล่มที่สนใจมาลองอ่านดูด้วย

ในระหว่างรับประทานอาหารค่ำวันนี้ ทุกคนได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับนักศึกษาชาวญี่ปุ่นและนักศึกษาชาวต่างชาติที่กำลังศึกษาอยู่ที่เกียวโต พร้อมไปกับการรับประทานอาหารอร่อย ๆ และรับชมการแสดงของ “เกียวเอ็น โซเดะฟุเระ (Kyoen Sodefure)” การแสดงศิลปะดาบญี่ปุ่น (Iaido) และการสาธิตการทำขนมญี่ปุ่น  นอกจากนี้ เรายังได้จัดกิจกรรมเกมส์บิงโก เพื่อให้ทุกคนได้มีโอกาสพูดคุยทำความรู้จักกับนักเรียนที่ร่วมกิจกรรมคนอื่น ๆ และนักศึกษาชาวญี่ปุ่นมากขึ้นด้วย

การแสดงของเกียวเอ็น โซเดะฟุเระ (Kyoen Sodefure)

การทำความรู้จักกันผ่านเกมส์บิงโก

การสาธิตการทำขนมญี่ปุ่น

สิ่งที่น่าประทับใจมากที่สุดในกิจกรรมนี้คือการถ่ายทอดประสบการณ์ของนักศึกษาชาวต่างชาติ 2 คน ที่กำลังศึกษาอยู่ที่เกียวโต คุณดิคาซึ่งเป็นนักศึกษาต่างชาติรุ่นพี่ที่กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยริทสึเมคัง ได้เล่าเรื่องราวการใช้ชีวิตในเกียวโตโดยเปิดวิดีโอที่เขาบันทึกการเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยในเกียวโตของเขาเมื่อช่วงฤดูร้อนปีที่แล้ว ภายในเวลาเพียงวันเดียวเท่านั้น คุณดิคาได้ขี่จักรยานของเขาแวะเวียนไปตามมหาวิทยาลัยถึง 25 แห่งเลยทีเดียว ช่างสมกับเป็นเมืองเกียวโตที่เป็นศูนย์รวมมหาวิทยาลัยเอาไว้จริง ๆ เลยนะคะ

คุณดิคาและคณะนักศึกษาจากเกียวเอ็น โซเดะฟุเระ (Kyoen Sodefure)

กิจกรรมในวันนี้เริ่มจากการรับฟังการบรรยายแนะนำมหาวิทยาลัยฯ จากนั้นพวกเราจึงได้เดินเยี่ยมชมห้องวิจัยของคณะชีววิทยาศาสตร์ ซึ่งมีนักศึกษาปัจจุบันเป็นผู้บรรยายแนะนำห้องวิจัยแต่ละห้องอย่างละเอียด อีกทั้งยังได้แนะนำอุปกรณ์ทดลองที่ไม่สามารถหาชมได้ทั่วไปอย่างกล้องจุลทัศน์สำหรับห้องมืดให้พวกเราได้ชมกันด้วย  นอกจากนี้ เรายังได้รับฟังการนำเสนอเนื้อหางานวิจัยในรูปแบบโปสเตอร์จากคณะอาจารย์และนักศึกษา ทำให้นักเรียนชาวต่างชาติแต่ละคนได้คิดทบทวนถึงสาขาวิชาที่ตนเองสนใจจะศึกษาต่อ หรือเรื่องที่สนใจจะทำงานวิจัยต่อไป

จากนั้นพวกเราได้รับประทานราเมงร้านอร่อยที่ตั้งอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยฯ ด้วย นอกจากนี้ สิ่งที่ทำให้พวกเราตื่นเต้นอีกอย่างหนึ่งก็คือ ที่นี่มีบันไดเลื่อนที่เชื่อมต่อภายนอกอาคารเรียนแต่ละอาคารไว้ด้วยกัน ทำให้การเดินทางข้ามอาคารเรียนที่นี่สะดวกมากเลยทีเดียว

วันที่ 3  เข้าร่วมกิจกรรม Open Campus แห่งที่สองที่มหาวิทยาลัยโดชิชะ วิทยาเขตอิมะเดะงะวะ

เรามุ่งหน้าไปยังห้องให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการเข้าศึกษาต่อซึ่งมีนักศึกษาต่างชาติเป็นผู้คอยให้คำแนะนำ โดยนักศึกษาชาวเกาหลีและนักศึกษาชาวจีนจากคณะการสื่อสารนานาชาติ ได้เล่าเกี่ยวกับเหตุผลที่ตัดสินใจเรียนต่อต่างประเทศ และเหตุผลที่เลือกเรียนในคณะนี้ รวมทั้งการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ ยังมีคณะอาจารย์ที่คอยตอบคำถามเกี่ยวกับการสอบเข้าศึกษาต่อของนักเรียนต่างชาติ รวมทั้งให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิชาที่ใช้ในการสอบเข้าด้วย  นับเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับการสอบเข้าศึกษาต่อของทุกคนมากเลยทีเดียว

นักเรียนที่ได้เข้าร่วมรับฟังคำปรึกษารายบุคคลในแต่ละคณะบอกกับเราว่า “ดีใจมากที่ได้ทราบเกี่ยวกับจุดเด่นของแต่ละสาขาวิชาจากการอธิบายของอาจารย์แต่ละคณะโดยตรง และยังได้รู้ว่าปัจจุบันมีนักศึกษาต่างชาติที่กำลังศึกษาอยู่ในคณะนั้นด้วย”

โบสถ์ที่ตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยโดชิชะแห่งนี้ ได้รับการรับรองให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น โดยตัวโบสถ์ห้อมล้อมไปด้วยกระจกสีที่งดงาม  เรารู้สึกประทับใจมากกับการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างห้องเรียนที่สะอาดทันสมัยกับอาคารโบราณในรั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้

จุดเด่นของการทัศนศึกษาในครั้งนี้

・การร่วมกิจกรรม Open Campus ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

พวกเราได้เดินทางโดยรถบัสเพื่อเยี่ยมชมมหาวิทยาลัย 4 แห่งในระยะเวลา 2 วัน เสียงสะท้อนจากนักเรียนชาวต่างชาติที่ร่วมกิจกรรมครั้งนี้บอกกับเราว่า “การเดินทางในการทัศนศึกษาครั้งนี้สะดวกมาก พวกเราได้มีโอกาสเยี่ยมชมห้องวิจัย และได้สัมผัสกับการเรียนการสอนจำลองด้วย”

นอกจากนี้ การทัศนศึกษาครั้งนี้ยังช่วยให้นักเรียนมีตัวเลือกในการเข้าศึกษาต่อเพิ่มขึ้น โดยนักเรียนที่ร่วมกิจกรรมครั้งนี้บอกกับเราว่า “ผมเริ่มจะสนใจมหาวิทยาลัยที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนขึ้นมาแล้วครับ”

・มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนกับนักศึกษาชาวญี่ปุ่นและนักศึกษาชาวต่างชาติที่กำลังศึกษาอยู่ในเกียวโต

ในการทัศนศึกษาครั้งนี้มีนักศึกษาในเกียวโตร่วมเดินทางกับเรา 18 คน โดยในการร่วมกิจกรรม Open Campus แต่ละแห่งจะแบ่งผู้ร่วมกิจกรรมเป็นกลุ่มย่อย ๆ ที่มีนักเรียนชาวต่างชาติและชาวญี่ปุ่น 1 – 2 คน และเจ้าหน้าที่ 1 คน เพื่อร่วมฟังการแนะนำและเยี่ยมชมห้องวิจัยในแต่ละคณะ เมื่อนักเรียนชาวต่างชาติไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่นที่ใช้ในการแนะนำมหาวิทยาลัยต่าง ๆ จึงสามารถสอบถามกับนักศึกษาชาวญี่ปุ่นหรือเจ้าหน้าที่ได้ทันที นอกจากนี้ การได้พูดคุยกับนักศึกษาชาวต่างชาติรุ่นพี่ที่ศึกษาอยู่ในเกียวโตนั้นยังเป็นโอกาสให้ทุกคนได้รับฟังเกียวกับการใช้ชีวิตของนักศึกษาต่างชาติ และสอบถามในประเด็นต่าง ๆ ที่แต่ละคนกังวลหรือสงสัย ซึ่งจะช่วยให้สามารถจินตนาการภาพการใช้ชีวิตนักศึกษาในเกียวโตได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

น้อง ๆ ก็สามารถเข้าร่วมกิจกรรมทัศนศึกษานี้ได้เช่นกันนะคะ ซึ่งการได้เข้าร่วมกิจกรรม Open Campus ของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในเกียวโตเช่นนี้ จะช่วยให้น้อง ๆ สามารถมองเห็นภาพการใช้ชีวิตนักศึกษาในเมืองศูนย์รวมมหาวิทยาลัยที่เกียวโตแห่งนี้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้นแน่นอนค่ะ

(เขียนโดย Chikako Ota มหาวิทยาลัยเภสัชศาสตร์เกียวโต)

กิจกรรมทัศนศึกษาสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ในเกียวโต – การทัศนศึกษางานศิลปะและคำบอกเล่าประสบการณ์ของนักเรียนชาวต่างชาติ

https://www.studykyoto.jp/th/magazine/2019/11/14/art-tour/

กิจกรรมทัศนศึกษาสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ในเกียวโต – การทัศนศึกษาสายศิลป์และคำบอกเล่าประสบการณ์ของนักเรียนชาวต่างชาติ

https://www.studykyoto.jp/th/magazine/2020/01/06/humanities-tour/