วิธีการเรียนภาษาญี่ปุ่น 3 เรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยการ์ตูนและซีรียส์
2017.01.23
โปรไฟล์
ชลดา เจริญวิริยะกุล
เภสัชศาสตร์มหาวิทยาเกียวโต
มาศึกษาที่ญี่ปุ่นด้วยทุนรัฐบาลญี่ปุ่น
หลังจากจบ ป.โท ณ มหาวิทยาลัยเกียวโต ปัจจุบันศึกษาต่อระดับ ป. เอก อยู่ปี 2
เหตุผลที่เริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่น
Q:ทำไมถึงคิดที่จะเรียนภาษาญี่ปุ่นครับ
A:ตอนสมัยมัธยมปลายชอบ Johnny ค่ะ
จริงๆแล้วก็คือคุณ Tsubasa ของคู่ดูโอ่ Tackey & Tsubasa แหละ (ฮา)
ตอนแรกๆก็เรียนด้วยการจำเนื้อเพลงต่างๆ หรือดูรายการการแสดงของคู่นี้ นอกจากนี้ที่ไทยยังมีคอนเสิร์ตอีกด้วย ก็ได้มีโอกาสไปทั้งหมด 2 ครั้งค่ะ
คิดว่าการที่มีสิ่งที่เราชอบรวมอยู่ด้วยทำให้เรามีแรงที่จะสามารถอดทนเรียนต่อไปได้ค่ะ
ในส่วนของการ์ตูนที่ชอบก็อย่างเช่น ”Attack on Titan” อนิเมะที่ชอบก็อย่างเช่น “Evangelion” ช่วงนี้ ก็มีชอบอนิเมะที่เป็น The movie ที่ดูๆมาก็อย่างเช่น”The Girl Who Leapt through time ,”The Boy and the Beast” หรือ “Your Name”
Q. ตอน ม.ปลายและมหาวิทยาลัย เรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยตัวเองมาตลอดเลยหรอครับ?
ที่ไทยก็มีโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นคล้ายๆโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษในญี่ปุ่นค่ะ ก็มีไปเรียนๆมาอยู่บ้าง ช่วงนี้โรงเรียนสอนภาษาเหล่านั้นก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จะว่าภาษาญี่ปุ่นค่อนข้างเป็นที่นิยมก็ว่าได้
คงเป็นเพราะบริษัทญี่ปุ่นมีมากในไทยมั้ง ถ้าพูดภาษาญี่ปุ่นได้คงมีประโยชน์ในอนาคตไม่น้อย เงินเดือนที่ได้ก็เพิ่มด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะบุคลากรสายวิศวะที่พูดภาษาญี่ปุ่นได้นั้นก็เป็นที่ต้องการอย่างมาก แต่ว่าแน่นอนคนที่เรียนภาษาญี่ปุ่นเพราะชอบอนิเมะกับเพลงก็คงมีไม่น้อยเช่นกัน
วิธีเรียนที่แนะนำ
Q. ใช้หนังสือแบบในการเรียนหรอครับ?
A: สำหรับระดับต้นๆก็ใช้หนังสือแบบเรียนของ JAPAN FOUNDATION ที่โรงเรียนสอนภาษาจัดมาให้ พอขึ้นมาสู่ระดับกลางๆก็มีชีทที่อาจารย์แจกแล้วก็หนังสือแบบเรียนเน้นสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาญี่ปุ่น
ไม่นานมานี้ในไทยก็เริ่มมีการขายหนังสือแบบเรียนภาษาญี่ปุ่นอยู่ทั่วไป หลายๆเล่มก็ค่อยๆถูกแปลเป็นภาษาไทย ตอนนี้เป็นเวลาที่ดีอย่างยิ่งในการเรียนภาษาญี่ปุ่น เพราะว่ามีสื่อและข้อมูลอยู่มากมาย คิดว่าการไปถึงขั้น N2,N1 ก็คงไม่ยากเท่าไหร่ค่ะ
ละครทีวีก็ช่วยเรื่องการเรียนได้เยอะ ตอนแรกๆก็ดูละครแบบมีซับไทย พอผ่านระดับต้นมาได้ก็เริ่มดูละครรักได้โดยไม่ต้องมีซับค่ะ แน่นอนว่าก็ไม่สามารถเข้าใจได้ทั้งหมดแต่โดยรวมก็พอเข้าใจเนื้อเรื่อง ทำให้มีความมั่นใจขึ้นมาค่ะ หลังจากนั้นก็เริ่มมีแรงฝึกจนดูแบบไม่มีซับได้มากขึ้น
ถ้าให้แนะนำก็คงแนะนำละครรักค่ะ ถึงแม้จะไม่เข้าใจสิ่งที่พูดกันในละครได้แต่ก็สามารถเข้าใจว่าใครชอบใครยังไงได้จากการแสดงออกทำให้มีแรงดูแบบไม่มีซับต่อไป แต่ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการสืบสวนอะไรแบบนี้ก็คงยากหน่อย แนะนำเรื่องรักๆหรือคอมเมดี้มากกว่าเพราะเข้าใจง่าย ถือเป็นระดับที่ผู่เริ่มต้นพอเข้าใจเนื่อเรื่องได้
หากจะดูแบบมีซับแล้วล่ะก็แนะนำให้ดูซับญี่ปุ่น ถ้าเป็นซับไทยก็คงฟังไม่ค่อยทันแล้วสุดท้ายก็ไปอ่านจากซับเอาจนได้ค่ะ
Q มีแอพอะไรแนะนำไหมครับ?
A: แอพที่แนะนำก็อย่างเช่น imiwa ค่ะ มีประโยคตัวอย่างอยู่ด้วยจึงคิดว่าสะดวกมาก ถ้าเป็นคำคาตาคานะก็มีบอกด้วยว่ามาจากคำอะไรภาษาอะไร แต่ imiwa เป็นแอพพจนานุกรมญี่ปุ่น-อังกฤษค่ะ แอพพจนานุกรมญี่ปุ่น-ไทยอย่าง J-doradic หรือ JTDict ก็มีใช้อยู่บ้าง